FISH Capital

กลยุทธ์ขุดทุน 4 มิติ หาจุดแข็ง เปลี่ยนเป็นจุดขาย
เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
Background

FISH Capital คืออะไร?

ในโลกที่การแข่งขันทางธุรกิจไม่ใช่เรื่องของขนาดองค์กรหรือเงินทุนในบัญชีเพียงอย่างเดียว การเติบโตอย่างยั่งยืนต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า "ทุนที่มองไม่เห็น" หรือ intangible capital ซึ่งมีพลังมากพอจะเปลี่ยนธุรกิจขนาดเล็กให้กลายเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาคหรือระดับโลกได้

นั่นคือที่มาของกรอบแนวคิด FISH Capital ซึ่งพัฒนาโดย คุณแคสเปอร์ - ธนกฤษณ์ เสริมสุขสัน (Kasper-Tanakrit Sermsuksan) ผู้ก่อตั้ง SEA Bridge และผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์นวัตกรรมและการขยายตลาดต่างประเทศ เป็นเครื่องมือสำหรับผู้ประกอบการและผู้บริหาร เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์จุดแข็ง ค้นหาโอกาส และวางแผนเติบโตในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

🔍 FISH Framework: กลยุทธ์ขุดทุน 4 มิติ หาจุดแข็ง เปลี่ยนเป็นจุดขาย

FISH Capital คือชุดทุน 4 ด้านที่จำเป็นต่อการเติบโตของธุรกิจในยุคใหม่ ไม่ใช่แค่สิ่งที่เรามีอยู่ (Asset) แต่รวมถึงสิ่งที่เราสามารถเข้าถึงและใช้ให้เกิดผลได้ (Capability)

ครอบคลุม:

  • F – Financial: เงินและความสามารถในการหาเงิน
  • I – Intellectual: ความรู้ เครื่องมือ และการใช้ข้อมูล
  • S – Social: เครือข่าย ความไว้ใจ และอิทธิพล
  • H – Human: คน ทักษะ และการดึงดูด/พัฒนา talent

FISH ไม่ได้แค่วิเคราะห์ “คุณมีอะไร” แต่ช่วยให้รู้ว่า “คุณใช้มันได้แค่ไหน” และ “ควรเสริมอะไรให้ครบเครื่อง” เพื่อให้ทุนแต่ละด้านทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ

Financial Capital (ทุนด้านการเงิน)

ทุนทางการเงินไม่ใช่แค่เงินที่มีอยู่ในมือ แต่รวมถึงความสามารถในการหาเงินเพิ่มผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนารูปแบบการหารายได้ใหม่ๆ (revenue model) การระดมทุน การกู้เงิน และการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการเงินให้เข้ากับสถานการณ์

ตัวอย่างของ Asset ได้แก่ เงินสด ทุนหมุนเวียน หรือสินทรัพย์ที่ขายได้ ส่วน Capability รวมถึงความสามารถในการพัฒนารูปแบบการหารายได้ใหม่ๆ (revenue model) การระดมทุน การกู้เงิน และการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการเงินให้เข้ากับสถานการณ์ รวมถึงการเขียนแผนธุรกิจที่นักลงทุนเชื่อ การสื่อสารศักยภาพให้ VC เห็น และการวางกลยุทธ์การเงินระยะยาว

กรณีตัวอย่าง:

  • Facebook มี Financial Capital เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากจ้าง Sheryl Sandberg เป็น COO เนื่องจากประสบการณ์ของเธอคือการเป็น Vice President of Online Sales & Operations ดูแลการขาย Ads ให้กับทาง Google เธอรู้วิธีการหาเงินจาก "จำนวนของผู้ใช้ (users)" และทำกำไรให้กับทั้ง 2 บริษัทอย่างเป็นกอบเป็นกำ
  • สตาร์ทอัพไทยที่ได้รับทุนจาก TED Fund, NIA, depa ในการพัฒนานวัตกรรม ใช้งบสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทดสอบตลาดจนพร้อมใช้งาน พร้อมทั้งมีแผนการใช้ทุนอย่างรอบคอบ ทำให้สามารถวางแผนการเงินและสร้างรายได้ระยะยาวได้ และใช้เงินที่หาได้มาต่อยอดและขยายตลาดแทนที่จะพึ่งการลงทุนเพิ่ม

Intellectual Capital (ทุนปัญญา)

Intellectual Capital คือความรู้ เครื่องมือ และทรัพย์สินทางปัญญาที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ สูตรสินค้า วิธีการทำงาน ฐานข้อมูลลูกค้า หรือ market insights ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละองค์กร

สิ่งที่สำคัญคือ Intellectual Capital ไม่จำเป็นต้องเป็นความรู้หรือ IP ที่เราสร้างขึ้นเองเท่านั้น แต่รวมถึงความสามารถในการดูดซับ ปรับใช้ และทำให้เกิดมูลค่าเชิงพาณิชย์ (commercialize) จากความรู้ที่มีอยู่ในโลก เช่น การเรียนรู้จากคู่แข่ง การนำเทคโนโลยีหรือแนวคิดจากต่างประเทศมาปรับใช้ การซื้อ license เทคโนโลยี หรือการแปลง consumer insights ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ

กรณีตัวอย่าง:

  • Osotspa เริ่มต้นจากการซื้อ license และนำเครื่องดื่มญี่ปุ่น (Lipo-Vitan D) มาผลิตในไทย แต่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงเมื่อใช้ความรู้และประสบการณ์นั้นมาพัฒนา M-150 ด้วยความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคไทย นี่คือตัวอย่างของการ commercialize ความรู้ที่มีอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่การถือครอง IP ของตนเอง
  • 7-Eleven ที่สร้างปรากฏการณ์ทางการตลาดผ่านการ collaborate กับ Butterbear (หมีเนย) โดยใช้ความเข้าใจในจิตวิทยาผู้บริโภคและพลังของ social media เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างความผูกพันกับแบรนด์ ส่งผลให้เกิดกระแสการซื้อสินค้าและความรักต่อแบรนด์

Social Capital (ทุนสังคม)

Social Capital คือทุนที่เกิดจากเครือข่าย ความไว้วางใจ และชื่อเสียงที่คุณสร้างไว้ในสายตาของผู้คน ทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ นักลงทุน และชุมชน ทุนประเภทนี้สร้าง soft power ที่ทำให้ stakeholders เกิด soft spots และอยากทำงานร่วมกับเรา มีผู้ติดตามที่ไว้วางใจ และเปิดโอกาสในการสร้างพันธมิตรใหม่ๆ

ความแข็งแกร่งของ Social Capital ไม่ได้วัดจากจำนวนคนรู้จักเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่คุณภาพของความสัมพันธ์และความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเหล่านั้น เครือข่ายที่ดีจะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ สร้างความร่วมมือ ลดต้นทุนธุรกรรม และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

ตัวอย่างของ Asset ได้แก่ จำนวนผู้ติดตาม เครือข่ายผู้มีอิทธิพลที่รู้จัก หรือฐานลูกค้าที่ภักดี ส่วน Capability คือความสามารถในการสร้างความไว้วางใจ การ networking อย่างมีประสิทธิภาพ การดึงผู้มีอิทธิพลเข้าร่วมทีม และการแปลงความสัมพันธ์ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ

กรณีตัวอย่าง:

  • Red Bull เติบโตจากเครื่องดื่มบำรุงกำลังท้องถิ่นในไทยสู่แบรนด์ระดับโลก เพราะ Dietrich Mateschitz พันธมิตรชาวออสเตรียที่มีทุนทางสังคมระดับนานาชาติ สามารถนำ Red Bull เข้าสู่ตลาดตะวันตกและวางตำแหน่งใหม่เป็นแบรนด์แห่งพลังและไลฟ์สไตล์ โดยใช้เครือข่ายในวงการกีฬาและบันเทิง
  • CP Group ที่ขยายธุรกิจไปจีนได้สำเร็จผ่านการใช้เครือข่ายและความสัมพันธ์ที่สร้างมายาวนาน รวมถึงการเข้าใจวัฒนธรรมและการสร้างความไว้วางใจกับพันธมิตรท้องถิ่น ทำให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทไทยที่ประสบความสำเร็จในตลาดจีนมากที่สุด
  • Influencer และ Content Creator ที่สามารถแปลงผู้ติดตามและความไว้วางใจให้กลายเป็นธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า การรับ endorsement หรือการสร้างแบรนด์ของตนเอง

Human Capital (ทุนมนุษย์)

Human Capital คือทุนที่อยู่ในตัวคน ทั้งทักษะ ประสบการณ์ และความสามารถในการสร้างผลงาน รวมถึงความสามารถในการดึงดูดและรักษาคนเก่งให้อยู่กับธุรกิจ ทุนประเภทนี้เป็นหัวใจของการแข่งขันในยุคดิจิทัล เพราะความรู้และทักษะของคนคือสิ่งที่สร้างนวัตกรรมและขับเคลื่อนการเติบโต

ในโลกยุคใหม่ การมีคนเก่งไม่จำเป็นต้องจ้างเต็มเวลา แต่สามารถเข้าถึง Freelance, Consultant, Advisor หรือแม้แต่ AI และ Automation ได้ หากมีระบบบริหารจัดการที่ยืดหยุ่นและชัดเจน การสร้าง Human Capital ที่แข็งแกร่งจึงไม่ได้หมายถึงการมีพนักงานมากที่สุด แต่เป็นการมีคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่

ความแข็งแกร่งของ Human Capital ไม่ได้วัดจากจำนวนพนักงานเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่คุณภาพของคน ความหลากหลายของทักษะ และความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว องค์กรที่มี Human Capital ที่ดีจะมีทีมงานที่สร้างสรรค์ แก้ปัญหาได้ดี มีความเป็นผู้นำ และสามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว

ตัวอย่างของ Asset ได้แก่ จำนวนและคุณภาพของพนักงาน ทักษะเฉพาะทางที่หายาก ประสบการณ์ในอุตสาหกรรม หรือ talent pipeline ที่พร้อมใช้งาน ส่วน Capability คือความสามารถในการสรรหาคนเก่ง การพัฒนาทักษะทีมงาน การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดึงดูด talent และการจัดการความรู้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

กรณีตัวอย่าง:

  • Starbucks ใช้แนวคิด "People-First" ด้วยการให้ทุนการศึกษาแก่พนักงาน part-time และพัฒนาเส้นทางอาชีพอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้มี employee retention ที่สูง บริการที่สม่ำเสมอ และวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรง ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและกลับมาซ้ำ
  • Google สร้าง Human Capital ผ่านการคัดเลือกคนเก่งที่หลากหลาย การให้เวลา 20% สำหรับโปรเจกต์ส่วนตัว และการสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมอย่าง Gmail, Google Maps และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เปลี่ยนโลก

วงล้อของศักยภาพ: The FISH Flywheel

FISH Capital ไม่ได้แยกขาด แต่เสริมพลังกันเป็นวงจรการเติบโตที่ต่อเนื่อง สำหรับการทำธุรกิจใหม่หรือขยายตลาด เราสามารถเริ่มจากทุนด้านที่เราถนัดที่สุด แต่รูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงมักจะเป็น:

  1. Intellectual Capital - เริ่มจากความเชี่ยวชาญและการเข้าใจตลาด
  2. Social Capital - สร้างเครือข่ายและความน่าเชื่อถือ
  3. Human Capital - รวมทีมมามื่อมีเครือข่ายและทุนแล้ว
  4. Financial Capital - ลงทุนจากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้

นี่คือ flywheel แห่งศักยภาพ ที่ยิ่งหมุนเร็วเท่าไหร่ ยิ่งสร้างพลังงานและโอกาสมากขึ้นเท่านั้น

ประยุกต์ใช้ FISH กับการวิเคราะห์ธุรกิจ (FISH x SWOT)

เราสามารถนำ FISH Capital มาผสานกับเครื่องมือ SWOT (หรือที่เราเรียกใหม่ว่า CSTO) เพื่อให้การวิเคราะห์ธุรกิจของคุณมีมิติที่ลึกขึ้นและนำไปใช้ได้จริง

  • C – Challenges: สิ่งที่ยังขาด / อุปสรรคในการเติบโต
  • S – Strengths: จุดแข็งที่มีอยู่ในแต่ละด้านทุน
  • T – Threats: ความเสี่ยงภายนอก
  • O – Opportunities: โอกาสทางการตลาด การพัฒนา และการเติบโต

การวิเคราะห์แต่ละมิติของ FISH Capital ผ่าน CSTO จะช่วยให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนและสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเป็นระบบ หากต้องการเจาะลึกการใช้ FISH x SWOT สำหรับวิเคราะห์ธุรกิจ โปรดอ่านบทความเพิ่มเติมได้ ที่นี่

fff

นำ FISH ไปใช้กับการวางแผนขยายตลาด (Go-to-Market)

หลังจากวิเคราะห์ FISH Capital และสรุปจุดแข็งของธุรกิจได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการใช้ Framework นี้ในการเลือกตลาดเป้าหมายให้เหมาะสมกับทุนที่คุณมี ผ่านโมเดล ตลาด 3 ล:

  • น่าลอง (Try) ตลาดใกล้ตัว ความเสี่ยงต่ำ (CLMV: กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม)
  • น่าลุ้น (Grow) ตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูง (เวียดนาม, อินโดนีเซีย)
  • น่าเลิร์น (Learn)ตลาดที่ใช้เรียนรู้ ecosystem (ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, เกาหลีใต้)

หมายเหตุ: การจัดหมวดหมู่ของตลาด 3 ล ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละธุรกิจและอุตสาหกรรม

FISH Capital จะช่วยคุณเลือกตลาดที่ "ทุนของคุณใช้งานได้ดีที่สุด" ไม่ใช่แค่ตลาดที่ “คนอื่นไป” แล้วคุณอยากตาม

FISH Capital = ทุนที่ใช้ได้จริง ทุนที่ใช้เป็น

FISH Capital ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่มันคือเครื่องมือจริงสำหรับธุรกิจที่ต้องการไปให้ไกลกว่าเดิม ด้วยทุนที่มีอยู่ และทุนที่สร้างขึ้นได้

“ถ้าคุณอยากโตในแบบที่ไม่แค่หาเงินเพิ่ม แต่มีพาร์ทเนอร์ คนเก่ง และโอกาสอยู่รอบตัว SEA Bridge คือ Growth Partner ที่จะช่วยคุณใช้ FISH Capital ได้ครบ”

ดาวน์โหลด FISH Capital Framework ฟรี

FISH Capital ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ SEA Bridge ซึ่งเราเปิดให้ดาวน์โหลดได้สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเชิงลึก

กรอกข้อมูลเพื่อรับไฟล์ แบบฟอร์มลงทะเบียนและดาวน์โหลด ทางทีมจะจัดส่งให้ทางอีเมล

หาท่านใดลองใช้ FISH Capital x SWOT แล้วต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมหรือมีข้อเสนอแนะสามารถติดต่อเราได้

ให้ SEA Bridge ร่วมพัฒนา FISH Capital ไปกับคุณ

ทุกธุรกิจมีทุนที่มองไม่เห็นแต่ไม่ใช่ทุกคนรู้วิธี “ใช้ทุนให้เกิดผล” SEA Bridge คือพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยคุณ

✔ วิเคราะห์จุดแข็ง ✔ เติมเต็มจุดขาด ✔ และเชื่อมทุนแต่ละด้านให้ทำงานร่วมกัน

Financial Capital - ทุนการเงิน

SEA Bridge ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับธุรกิจของคุณ ผ่านการอบรมเรื่องการระดมทุน การออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ และการวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ เราเชื่อมต่อคุณกับแหล่งเงินทุนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น VC, Angel Investor หรือ Grant ต่างๆ รวมทั้งยังมีโอกาสร่วมลงทุนผ่าน SEA Bridge Venture Studio เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจให้เป็นรูปธรรม

Intellectual Capital - ทุนปัญญา

โปรแกรม NextWave Program ที่เน้นการพัฒนาทักษะนักธุรกิจและทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ เราช่วยพัฒนาศักยภาพทางปัญญาของธุรกิจ ตั้งแต่การหานักวิจัยและที่ปรึกษาที่เหมาะสมมาช่วยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในตลาดอาเซียนและต่างประเทศ ไปจนถึงการสร้างแบรนด์ เล่าเรื่อง และพัฒนาคอนเทนต์ที่โดดเด่น พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา การจดสิทธิบัตร และการนำความรู้ที่มีไปสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจจริงๆ

Social Capital - ทุนสังคม

SEA Bridge เป็นสะพานเชื่อมสู่เครือข่ายธุรกิจในภูมิภาคกว่า 24 ประเทศ เราช่วยสร้างเครือข่ายให้คุณผ่านการจับคู่ธุรกิจกับพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสม ทั้งภาครัฐ เอกชน นักลงทุน และผู้ประกอบการอื่นๆ พร้อมสร้างแพลตฟอร์มและชุมชนที่ช่วยแลกเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจ และยกระดับชื่อเสียงของคุณในเวทีระดับภูมิภาคและสากล

Human Capital - ทุนมนุษย์

เราช่วยเสริมทีมงานให้คุณผ่านเครือข่าย SEA Bridge NextGen Talent Pool ที่รวมคนเก่งกว่า 2,000 จากทั่วอาเซียน พร้อมระบบจับคู่คนเก่งเพื่อทดลองโปรเจค เพื่อให้องค์กรของคุณเข้าถึงคนเก่งที่ตรงกับความต้องการในแต่ละช่วงของการเติบโต

เพราะ FISH Capital ไม่ใช่แค่กรอบคิด — แต่มันคือเครื่องมือจริงสำหรับการเติบโต

Our Testimonials Voices

Feedback on Collaborating with Me

Designing and implementing online stores or e-commerce platforms that are secure, easy to navigate, and visually appealing.

Testimonials Name

"Working with Boley was an absolute pleasure. Their attention to detail and commitment to quality are unparalleled."

Testimonials Name

"Working with Boley was an absolute pleasure. Their attention to detail and commitment to quality are unparalleled."

Highly recommend

"Working with Boley was an absolute pleasure. Their attention to detail and commitment to quality are unparalleled."

I couldn't be happier.

"Working with Boley was an absolute pleasure. Their attention to detail and commitment to quality are unparalleled."

Choosing Boley

"Working with Boley was an absolute pleasure. Their attention to detail and commitment to quality are unparalleled."

Impressive work

"Working with Boley was an absolute pleasure. Their attention to detail and commitment to quality are unparalleled."

Testimonials Name

"Working with Boley was an absolute pleasure. Their attention to detail and commitment to quality are unparalleled."