การที่ ประธานธิบดีสีจิ้นผิง จัดการประชุมหารือกับ CEO ชั้นนำของจีน ไม่ใช่แค่เรื่องภายในประเทศจีน แต่สะท้อนถึง "เกมเศรษฐกิจโลก" ที่ทุกประเทศ—รวมถึง ไทย—ต้องจับตามอง เพราะนี่คือแนวทางที่สามารถเป็นกรณีศึกษาสำคัญสำหรับประเทศไทยและประเทศในอาเซียนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่

1. โมเดล “รัฐนำ เอกชนตาม” ที่ทรงพลัง

จีนกำลังใช้สูตรเดียวกับสหรัฐฯ และยุโรป โดยการผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายผ่านความร่วมมือระหว่างรัฐและภาคเอกชน:

• สหรัฐฯ มีการประชุมระหว่าง Donald Trump กับ CEO เทคโนโลยีชั้นนำ เช่น OpenAI และ Oracle เพื่อวางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจใหม่
• ฝรั่งเศสภายใต้ Emmanuel Macron จัดงาน AI Action Summit และประกาศลงทุน 1.09 แสนล้านยูโรในอุตสาหกรรม AI

บทเรียนสำหรับไทย:

ประเทศไทยและอาเซียนต้องมี ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่ชัดเจน และสร้างแพลตฟอร์มที่ให้ภาครัฐเป็นสะพานเชื่อมเอกชนกับเป้าหมายเศรษฐกิจระยะยาว เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน

2. รายได้รัฐโตจากภาษีเอกชนที่ประสบความสำเร็จ

• ปัจจุบัน รายได้ของจีนจากบริษัทเอกชนคิดเป็น มากกว่า 50% ของรายได้รัฐบาล
• รัฐบาลจีนสามารถใช้เงินจากภาษีเพื่อพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และการศึกษา
• ต่างจากไทยที่ เอกชนโตจากโครงการรัฐและสัมปทาน มากกว่าจากการแข่งขันในตลาดจริง

บทเรียนสำหรับไทย:

หากไทยต้องการสร้าง รายได้รัฐที่มั่นคง ควรสนับสนุน NextWave Entrepreneurs ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แท้จริง

3. กลยุทธ์การควบคุมและผ่อนปรนที่ยืดหยุ่น

• ช่วงที่ผ่านมา จีนมีมาตรการเข้มงวดกับบริษัทเทค เช่น Alibaba, Didi และ Tencent
• ล่าสุด จีนกลับมาผ่อนปรน เชิญ CEO กลับมาหารือ แสดงถึงความพร้อมในการสนับสนุนอุตสาหกรรม
• นี่คือ “สัญญาณของจีนยุคใหม่” ที่กล้าปรับตัวและเรียนรู้จากความผิดพลาด

บทเรียนสำหรับไทย:

รัฐบาลต้อง สร้างสมดุลระหว่างการควบคุมและการส่งเสริม ให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยมีนโยบายที่ดึงดูดนักลงทุนและปราบปรามการทุจริต

4. ธุรกิจยุคใหม่ควรมีบทบาทในนโยบายเศรษฐกิจ

• ในที่ประชุม CEO ของจีน Liang Wenfeng (ผู้ก่อตั้ง DeepSeek AI) แม้เป็นสตาร์ทอัพ AI หน้าใหม่ แต่ก็ได้รับโอกาสร่วมโต๊ะหารือ
• จีนต้องการให้ ธุรกิจยุคใหม่ มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศ

บทเรียนสำหรับไทย:

ไทยต้องให้โอกาส NextWave Entrepreneurs เข้าสู่เวทีการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเติบโตของสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรม

5. เศรษฐกิจไทยต้องไปไกลกว่าพรมแดน

• แม้จีนมีฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยัง ขยายพันธมิตร เพื่อสร้างอิทธิพลในตลาดต่างประเทศ
• พันธมิตรทางเศรษฐกิจ กับอาเซียน, แอฟริกา, อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง ผ่านกลยุทธ์ Soft และ Hard Power

บทเรียนสำหรับไทย:

ไทยควร ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กับประเทศในอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ แทนที่จะเน้นแข่งขันกันเอง

ธุรกิจยุคใหม่ของไทยควรเป็นอย่างไร?

อุตสาหกรรมที่ไทยควรมุ่งเน้นเพื่อก้าวเป็นผู้นำเศรษฐกิจยุคใหม่ ได้แก่:

1. Deep Tech & AI – พัฒนานวัตกรรมแทนแค่รับจ้างผลิต
2. Future Food – เป็นแหล่งผลิตอาหารแห่งอนาคต ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
3. Health & Wellness – เป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพระดับโลก
4. Entertainment & Creative – สร้างเทคโนโลยีเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และบันเทิงไทยสู่ตลาดโลก

สรุป: บทเรียนสำคัญสำหรับไทย

1. รัฐต้องเป็นสะพานให้เอกชนเติบโต
2. สร้างรายได้รัฐผ่านธุรกิจที่มีมูลค่าเพิ่ม
3. บาลานซ์ระหว่างการควบคุมและการสนับสนุน
4. ให้โอกาสธุรกิจยุคใหม่มีบทบาทในนโยบายเศรษฐกิจ
5. ขยายพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลก

ไทยจะไม่ชนะ ถ้าเล่นเกมเดิม

ธุรกิจยุคใหม่ (NextWave Entrepreneurs) คือพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่ต้องได้รับการสนับสนุน เพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างแท้จริง