ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพูดได้เลยว่าวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในไทยได้รับความนิยขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะวัฒนธรรม Cafe Hopping หรือคนดื่มที่สนใจประสบการณ์ในการดื่ม เรียนรู้กาแฟเพื่อเดินทางไปชิมตามร้านต่างๆ (เปิดประตูบานใหม่ของโลกกาแฟ) การเดินทางเพื่อถ่ายรูปในร้านกาแฟ รวมถึงการขยายตลาดของทั้งบริษัทข้ามชาติอย่างสตาร์ทบัค และแบรนด์ไทยอย่าง Amazon Cafe ทำให้มีคนหันมาสนใจเรื่องกาแฟมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเพราะวัฒนธรรม Cafe Hopping การเดินทางเพื่อถ่ายรูปตามร้านคาเฟ่ หรือ สายดื่ม Hard Core ที่ต้องการเรียนรู้ที่มาที่ไปเดินทางไปชิมตามร้านต่างๆ วันนี้แคสเปอร์จะพาทุกท่าน รวมถึงทีมงานไปตามล่าหากาแฟกันที่กระบี่
จังหวัดกระบี่ถือเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกกาแฟที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้และในประเทศไทย ได้มีการปลูกกาแฟกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีต จากการลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้คนในพื้นที่รวมถึงเกษตรกรกาแฟหลายท่าน ได้ทราบมาว่า กระบี่เคยเป็นเมืองปลูกกาแฟหลักเพื่อส่งให้ เนสกาแฟ เมื่อ 30-40 ปีก่อน ในยุคนั้นกาแฟถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของกระบี่เลยทีเดียว
แต่ด้วยราคากาแฟที่ดิ่งลงทำให้คนหันมาปลูกปาล์มและยางพารากันมากขึ้น จนไร่กาแฟแทบจะไม่มีเหลือเลย ถือเป็นโชคดีที่ไร่ส่วนน้อยที่ยังคงเหลืออยู่ยังได้สืบทอดวิธีการปลูกและเมล็ดพันธุ์โรบัสต้าพื้นถิ่นรุ่นสู่รุ่น จนได้รับการขึ้นทะเบียน ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2561 จากกรมทรัยพ์สินทางปัญญา ได้รับมาตรฐานสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ทำให้กระแสการผลิตกาแฟแบรนด์กระบี่กลับมาอีกครั้งและรวมถึงส่งออกต่างจังหวัดและล่าสุดส่งออกต่างประเทศแล้ว
ทาง The Signature ได้มีโอกาสไปเยี่ยมไร่กาแฟตัวอย่าง ไร่กาแฟโรบัสต้าภูตะวัน “ไร่กาแฟภูตะวัน” หมู่บ้านทะเลหอยในอำเภอปลายพระยา ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 1 ชม.2 ชั่วโมง พูดคุยกับคุณโอ๋ นางสาวจรี มานพ กับคุณต่อ ฤทธิชัย อ้นชู? ได้เห็น กระบวนการ Process กาแฟ (การแปรรูปกาแฟ) ทั้งสามแบบ เจ้าของไร่ที่ผลิตกาแฟส่งประกวดจนได้รับรางวัลระดับประเทศติด 1 ใน 10 กาแฟโรบัสต้าไทยอีกด้วย (สุดยอดกาแฟไทย Thai Coffee Excellence 2021)
ทุกขั้นตอนได้ผ่านการแปรรูปอย่างพิถีพิถันเพื่อยกระดับให้เป็นกาแฟเกรดคุณภาพ สะอาด มีรสชาติที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อส่งต่อถึงคนดื่ม (จริงๆแล้วเป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์โบราณเพื่อส่งต่อถึงรุ่นลูกหลานที่ยังคงปลูกไว้ เพื่อให้เป็นกาแฟกระบี่ที่มีรสชาติที่ดี สู่คนดื่ม) ถูกทำอย่างพิถีพิถันจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น ประยุกต์ใช้ร่วมกับการฝึกอบรมการปลูกและเลือกเมล็ดกาแฟระดับนานาชาติ ทำให้แบรนด์กระบี่สามารถพัฒนาต่อยอดต่อไป
ทั้งนี้ผู้ประกอบการโรงคั่วกาแฟและร้านกาแฟในพื้นที่เองอย่างร้านดัง โรงคั่วกาแฟ 23 Roaster ของคุณเอ๋และคุณแมว กับ Much & Mellow ของคุณซันและบารริสต้าอุ้ย ก็ยังสนับสนุนนำเมล็ดกาแฟ Fine Robusta กระบี่ มาคั่ว เมล็ดกาแฟท้องถิ่นให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวได้ลองอยู่เสมอ เป็นการต่อยอด value chain ต้นน้ำสู่ปลายน้ำอย่างน่าประทับใจ
เป็นที่น่าสนใจว่า แบรนด์กาแฟกระบี่ และภาพจำโรบัสต้าสุดขม จะถูกพัฒนาและต่อยอดไปจากความร่วมมือของคนในชุมชน ผู้ประกอบการในพื้นที่ ร่วมถึงภาครัฐได้อย่างไร แต่เรียกได้ว่า นี่แหละคือต้นแบบโมเดลการทำเมืองท่องเที่ยวที่จะถูกพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ช่วยเกษตรกรที่เป็นอาชีพหลักของประเทศ ในก้าวสู่การแข่งขันและมาตรฐานระดับโลกต่อไป
พวกเราก็สัมผัสได้ถึงความตั้งใจตั้งแต่ต้นน้ำอย่างเกษตรกร โรงคั่วกาแฟ ร้านกาแฟ บาริสต้า เพื่อส่งกาแฟถึงคนดื่ม ปลายน้ำ อย่างมีความสุขร่วมกันและได้เริ่มที่จะขยายกาแฟกระบี่ที่มีคุณภาพไปสู่นักท่องเที่ยว โรงแรมต่างๆ รวมไปถึงคาเฟ่ ให้ได้ลองสัมผัสกาแฟรสชาติกระบี่