5 บทเรียนการพัฒนาธุรกิจฐานรากจากจีน ที่ผู้ประกอบการไทยนำไปใช้ได้จริง

ถอดบทเรียนกลยุทธ์จากจีนที่เปลี่ยนคนจนให้เป็นผู้ประกอบการระดับโลก พร้อมกรณีศึกษาและสถิติจริง ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปใช้ได้ทันที

จีนสามารถลดความยากจนจากประชากรกว่า 770 ล้านคนในปี 1978 เหลือน้อยกว่า 1% ภายในปี 2020โดยใช้เครื่องมือหลักคือ “การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ” ให้คนระดับฐานรากสามารถลุกขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการอย่างแท้จริง นี่คือ 5 กลยุทธ์สำคัญที่ไทยสามารถนำมาปรับใช้ได้:

1. วิสาหกิจชุมชนคือพลังเศรษฐกิจที่มองข้ามไม่ได้

โมเดล: Township and Village Enterprises (TVEs)

จีนส่งเสริมให้คนในหมู่บ้านจัดตั้งวิสาหกิจขนาดเล็ก ใช้แรงงานในชุมชนเพื่อผลิตสินค้าป้อนตลาดท้องถิ่นและภายในประเทศ โดยไม่ต้องย้ายถิ่นฐาน ตัวอย่างเช่น ในมณฑล Jiangsu และ Zhejiang มีหมู่บ้านที่สร้างรายได้เฉลี่ยสูงขึ้นกว่าสองเท่าภายในไม่กี่ปี

สำหรับไทย: สนับสนุนอุตสาหกรรมชุมชนในท้องถิ่น เช่น แปรรูปอาหาร, สมุนไพร หรือเสื้อผ้าพื้นเมือง โดยจับคู่กับนักลงทุนหรือระบบโลจิสติกส์

2. ลงมือทำสำคัญกว่าปริญญา

กรณีศึกษา: นาย Xie Dewu ตั้งโรงงานผลิตวาล์วจากประสบการณ์ที่เรียนรู้จากพี่ชาย ไม่ใช่จากระบบมหาวิทยาลัย

โรงงานของเขาเริ่มต้นจากโรงเรือนเล็ก ๆ ที่พัฒนาแบบ "ลองผิดลองถูก" จนกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวาล์วรายใหญ่ของจีน

สำหรับไทย: สร้างพื้นที่ฝึกงานและระบบพี่เลี้ยงใน SME ไทย โดยไม่จำกัดเพียงผู้จบปริญญา

3. ทดลองภายใต้โครงสร้าง: "นโยบายพื้นที่นำร่อง"

แนวคิด: Experimentation under hierarchy

จีนอนุญาตให้บางพื้นที่ทดสอบแนวทางใหม่ ๆ เช่น ระบบรับผิดชอบผลผลิตในครัวเรือน (Household Responsibility System) ที่ภายหลังกลายเป็นนโยบายระดับชาติ

สำหรับไทย: เปิดพื้นที่พัฒนาเชิงทดลอง เช่น โครงการ sandbox สำหรับ SME, เมืองนวัตกรรม หรือจังหวัดที่มีความพร้อมด้านทุนมนุษย์

4. ใช้ข้อมูลเพื่อวางกลยุทธ์แบบแม่นยำ

นโยบายจีน: ใช้ระบบข้อมูลครัวเรือนระดับชาติในการกำหนดเป้าหมายการช่วยเหลือ เช่น "การลดความยากจนแบบเจาะจง" (Targeted Poverty Reduction)

สำหรับไทย: ผู้ประกอบการควรเก็บข้อมูลลูกค้าให้ละเอียด เช่น อายุ รายได้ ความต้องการ เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์/แคมเปญการตลาดที่ตรงจุด

5. สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึง

ข้อมูล: แพลตฟอร์ม E-Commerce ของจีน เช่น Alibaba และ Pinduoduo ช่วยให้เกษตรกรขายตรงได้เอง สร้างอาชีพใหม่กว่า 13 ล้านตำแหน่ง และมีมูลค่าธุรกรรมกว่า 2.2 ล้านล้านหยวน

สำหรับไทย: พัฒนาโครงการอบรม e-commerce และใช้ Digital Platform ในการกระจายสินค้าชุมชนสู่ตลาดในประเทศและอาเซียน

✍️ สรุป:

จีนพิสูจน์ว่า “การสร้างผู้ประกอบการจากฐานราก” ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หากมีโครงสร้างสนับสนุนที่ยืดหยุ่น และขับเคลื่อนโดยข้อมูลจริง ผู้ประกอบการไทยจึงควรเรียนรู้จากแนวคิดและระบบที่จีนใช้ และเริ่มต้นจากจุดแข็งของตนเอง เพื่อขยายตลาดอย่างยั่งยืน

จากรายงาน World Bank (2022): Four Decades of Poverty Reduction in China

Exploring the Latest in Our Blog

Related Insights

No items found.